การพัฒนาการของตัวอ่อนมนุษย์ เริ่มจากเซลล์หนึ่งเซลล์ เป็นสอง เป็นสี่ เป็นแปด เป็นสิบหก และเจริญอย่างรวดเร็วเป็นบลาสโตซีสต์ดังรูปต่อไปนี้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg203Cq2rzKGTvNIUY5hqGTkFyU5kKJO6FrNop1MlEVoPwd4kQvIYoCxZpfADARD3Mu4N8QQUgDibgO8Lw6Avli7eXIQOeTcsvTOFriboazvZX3fsCVW02YXQMXYL2pGbyXZKYNpyGXAHie/s1600/2pn1.jpg) |
ตัวอ่อนระยะหนึ่งเซลล์ |
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgyX5Q-3JlsU6Hw3n4ErxkZkwtp3kSnMyQavWe13jJll8q79l30IBXF34sY6r9NN2l-OI0ETpcsoA_anMAAEm3Q5C-fA3W6cRVFl6oUEkwtU-j9xik4I8i2yjsVPj-CK_NCGzvNUeBjQ6-d/s1600/2cell1.jpg) |
ตัวอ่อนระยะสองเซลล์ |
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj4cM1g-fGlDopuNDwDl7E7pLABXpLHVZIZLWd27ZIP1v1z0Zz3f_qGRxHYxqsA73cFnxmlvAJ37VceJXVnxgTtxvsbC2kc_-nzrh9vHPCKYoO1_y88dGtp-MZZd3SJTd2JD9ozuVXyy_w8/s1600/4cell1.1.jpg) |
ตัวอ่อนระยะสี่เซลล์ |
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgYB6DGNr5cg1rzuSilavSEhuTvKBHtu-HrT8czxuG6Q-PM7fcPa1xZqQOyJln0M0p8L_Fqyhq-mCcKeo1Uac9Gkw_n5ePxiVV0oyQcOU5-03hvscbkwc96uMUBaxzb0RgWQq7by9I054-N/s1600/8cell1.1.jpg) |
ตัวอ่อนระยะแปดเซลล์ |
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhqgA1Mrt5EVIWL9rGkeF0pDfn7U4-77n9PtuV2kwD5Ih3dhr8dTPI0V9apCHyq5vlc4DNNj_Khwd-vOqYUGX7QHsd9SgKA9cHk65AnwdC0aUpxPbmc2_88_9DJUa6Yof0thAgJnC4ewr0F/s1600/14cell1.1.jpg) |
ตัวอ่อนระยะสิบหกเซลล์ |
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjn2jN7fRoRl6HkM5D7pexrpXdQIaj6Q-g-3leRCch0iDuOlXR3vH1PN89IG_lLtqoiKbKoAaGKfXndySxY5h5XJ0FHU6kqZGCSq0W_CNQC9zXtlgQifn8w3xbS943l1k-6kifIjW2gNf83/s320/blastocyst1.1.jpg) |
ตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์ |
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhHjfueEhoRLlDss4jBKrsLh0q6unFPBvty6ry1cCgy0VYwooPhM2f-ycZkW7et85Dr2J4zIcHy1dkQvpBWL_IOWBDp65nqv4HX6I-q90hA2n3hF97Yv8CG2POiJd88YDba3uvJ78xkSYxa/s1600/hatching+blast1.1.jpg) |
ตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์ที่ฟักออกจากเปลือกตัวอ่อน |
การย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์เป็นการย้ายตัวอ่อนในระยะพัฒนาการ 5 วัน ซึ่งเป็นตัวอ่อนที่พร้อมจะฝังตัว หลังย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์ ตัวอ่อนจะออกจากเปลือกตัวอ่อนและฝังในเยื่อบุโพรงมดลูก หลังตัวอ่อนฝังตัวเข้าไปในเยื่อบุโพรงมดลูก ตัวอ่อนจะสร้างฮอร์โมน hCG เข้าไปในกระแสเลือดแม่ ทำให้สามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้
ขบวนการการทำเด็กหลอดแก้วปกติน้ัน โดยทั่วไปไข่ที่ถูกกระตุ้นด้วยยาฉีดน้ัน จะถูกเก็บออกมาและทำการแยกว่าไข่ใบไหนเป็นไข่ที่โตเต็มที่ซึ่งสามารถนำมาผสมกับอสุจิได้ ส่วนไข่อ่อนน้ันไม่สามารถนำมาผสมได้ ประมาณร้อยละ 70 ของไข่ที่โตเต็มที่จะผสมกับอสุจิได้เป็นตัวอ่อน และตัวอ่อนที่ได้จะเจริญพัฒนาต่อไปจนถึงระยะ 8 เซลล์ หลังจากน้ันตัวอ่อนบางตัวอาจจะชะงักการเจริญเติบโตได้เนื่องจากธรรมชาติของตัวอ่อนมนุษย์ที่ผิดปกติมักจะหยุดชะงักการเจริญเติบโตที่ระยะประมาณ 4-8 เซลล์และตายในที่สุด ดังนั้นการเลี้ยงตัวอ่อนให้นานขึ้นเพื่อให้พ้นระยะ 8 เซลล์เป็นการใช้การคัดเลือกตามธรรมชาติมาเลือกตัวอ่อนที่มีแนวโน้มที่จะฝังตัวได้ โดยจะคัดเลือกเฉพาะตัวอ่อนที่สามารถเจริญพัฒนาเป็นบลาสโตซีสต์มาย้าย ทำให้สามารถลดจำนวนตัวอ่อนที่ย้ายกลับโดยที่โอกาสในการตั้งครรภ์น้ันยังคงดีอยู่และโอกาสในการเกิดครรภ์แฝดที่มากกว่าสองจะลดลงไปมาก เนื่องจากในอดีตการย้ายตัวอ่อนมักจะทำในระยะ 4-8 เซลล์ หรืออายุประมาณ 3 วันของตัวอ่อน ซึ่งการย้ายตัวอ่อนมักจะย้ายประมาณ 2-3 ตัวอ่อนเพื่อเพ่ิมโอกาสในการตั้งครรภ์ในการย้ายตัวอ่อนแต่ละรอบ ซึ่งความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์แฝดสามจะเพ่ิมสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะถ้ามีการย้ายมากกว่าสามตัวอ่อน
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg_1AE9Ta-7yNsdbqz-4o_oj2StkXDQe3r4ZvRmHl-6WiKe0-l2N52XQfghIBer_7b73KMlunsu6CNV5FyeItaZzJY_MvFAyIoM8jsG_x4YN40Jo1Qte3Jlr9tr0Opzd7XBZFTFurk5tUk5/s640/Document2.jpg)
จากแผนผังเบื้องต้น จะเห็นได้ว่า
การทำเด็กหลอดแก้วน้ัน จำนวนของไข่มีผลต่อโอกาสในการตั้งครรภ์ โดยไข่ตั้งต้นควรมีจำนวนพอสมควร เนื่องจากโดยขบวนการการรักษาน้ันทำให้เหลือตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีพอจะตั้งครรภ์ได้ไม่มาก ซึ่งอาจจะเหลือเพียงน้อยกว่า 30% ของไข่ที่กระตุ้นได้
ข้อดีและข้อเสียและข้อเท็จจริงบางประการของการย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์
- ข้อดีคือการใช้ขบวนการการคัดเลือกตามธรรมชาติมาคัดเลือกตัวอ่อน โดยเลือกตัวอ่อนที่สามารถเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์ได้มาย้ายกลับ ซึ่งทำให้เพิ่มโอกาสในการฝังตัวในแต่ละรอบที่ย้าย และลดจำนวนการย้ายตัวอ่อนได้ทำให้ลดอัตราการเกิดครรภ์แฝดที่มากกว่าสามลงไปได้มาก และเหมาะสมมากสำหรับรายที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์แฝด จึงสามารถย้ายตัวอ่อนบลาสโตซีสต์เพียงแค่ตัวเดียวได้โดยอัตราการตั้งครรภ์ไม่ได้ลดลงเมื่อเทียบกับการย้ายตัวอ่อนบลาสโตซีสต์สองตัว
- ข้อเสียของการย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์คือ ไม่สามารถนำมาใช้กับการย้ายตัวอ่อนทุกคนได้ เนื่องจากบางรายอาจมีจำนวนตัวอ่อนน้อยเกินกว่าจะเลี้ยงให้เป็นระยะบลาสโตซีสต์ได้ นอกจากนี้การเลี้ยงตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์ต้องมีระบบการเลี้ยงตัวอ่อนที่ได้มาตรฐานและมีระบบการเลี้ยงตัวอ่อนเฉพาะ จึงจะทำให้การเลี้ยงตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์น้ันประสบความสำเร็จได้ดีกว่าการย้ายตัวอ่อนระยะ 8 เซลล์ เนื่องจากโอกาสประสบความสำเร็จในการย้ายตัวอ่อนระยะ 8 เซลล์น้ันอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอสมควรอยู่แล้ว ดังน้ันการย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์น้ันเหมาะมากสำหรับผู้หญิงอายุน้อย ซึ่งตัวอ่อนแต่ละตัวมีโอกาสฝังตัวมากกว่าคนที่อายุมาก และจำนวนตัวอ่อนที่มีมากกว่า 6 ตัวอ่อนโดยไม่จำกัดอายุฝ่ายหญิง
- การย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์น้ัน อาจจะไม่ใช่เป็นวิธีการย้ายตัวอ่อนที่เหมาะสมสำหรับทุกคน เนื่องจากยังมีความเสี่ยงเรื่องของตัวอ่อนที่ต้องเสี่ยงไปเจริญเติบโตอยู่ในสภาวะที่ไม่เหมือนธรรมชาติทำให้ไม่สามารถเจริญเป็นบลาสโตซีสต์ได้ ดังน้ันเมื่อถึงวันที่ย้ายตัวอ่อน อาจจะไม่มีตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์ให้ย้ายเลยก็ได้
- อัตราการเจริญเป็นบลาสโตซีสต์ขึ้นอยู่กับอายุของฝ่ายหญิง อายุน้อยอัตราการเจริญเป็นบลาสโตซีสต์มีมากกว่าอายุมาก เราคาดว่าคนอายุน้อยกว่า 35 ปีมีโอกาสเจริญเป็นบลาสโตซีสต์ที่มากกว่าร้อยละ 50 ของตัวอ่อนที่ผสมได้ทั้งหมด และสัดส่วนจะลดหลั่นลงไปเมื่ออายุมากกว่า 35 ปี
ข้อดีและข้อเสียของการย้ายตัวอ่อนระยะ 8 เซลล์
- ข้อดีคือตัวอ่อนไม่ต้องเสี่ยงอยู่ในตู้เลี้ยงเป็นเวลานาน โดยเฉพาะระบบการเลี้ยงตัวอ่อนที่ไม่ได้มาตรฐาน ตัวอ่อนจะไม่สามารถเจริญพัฒนาเป็นบลาสโตซีสต์ได้ ทำให้แปลผลว่าตัวอ่อนไม่ดีพอ ซึ่งในความเป็นจริงระบบการเลี้ยงไม่ดีพอ คนที่มีตัวอ่อนจำนวนไม่มาก สามารถย้ายตัวอ่อนระยะ 8 เซลล์ได้โดยโอกาสตั้งครรภ์ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจได้ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณภาพของไข่และอสุจิ
- ข้อเสียคือต้องย้ายตัวอ่อนจำนวนมากขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อครรภ์แฝดสูงกว่าการย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์ โดยเฉพาะแฝดที่มากกว่าสาม การลดจำนวนการย้ายลง อาจมีผลต่อโอกาสในการตั้งครรภ์ ซึ่งต่างกับการย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์ที่สามารถย้ายตัวอ่อนจำนวนน้อยลงไม่เกินสองตัวอ่อนได้ จึงทำให้ตั้งครรภ์แฝดเพียงแค่สอง ยกเว้นว่ามีแฝดแท้เกิดขึ้นมาในภายหลัง ในปัจจุบันพบว่าการรักษาคู่สมรสที่มีบุตรยากด้วยขบวนการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทำให้แฝดแท้มีโอกาสเกิดสูงกว่าการเกิดในธรรมชาติ สาเหตุเกิดจากขบวนการการรักษาน้ันไปกระตุ้นให้ตัวอ่อนมีการแบ่งแยกตัวออกมาเอง
กล่าวโดยสรุป การย้ายตัวอ่อนระยะ 8 เซลล์และการย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์สามารถทำได้โดยได้ผลการรักษาที่ดีทั้งสองวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวอ่อนตั้งต้นซึ่งต้องมาจากไข่และอสุจิที่ดี การเลือกย้ายตัวอ่อนระยะใดน้ันควรพิจารณาจากจำนวนตัวอ่อนที่ผสมได้ อายุของฝ่ายหญิง คุณภาพของห้องปฏิบัติการและระบบการเลี้ยงตัวอ่อนที่ได้มาตรฐานสำหรับตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์ ในกรณีที่จำนวนตัวอ่อนมีน้อย การย้ายตัวอ่อนระยะ 8 เซลล์ให้ผลการรักษาที่ดี แม้ว่าจะเสี่ยงแฝดมากถ้าย้ายตัวอ่อนมากเกินไป ในขณะเดียวกันกรณีที่มีจำนวนตัวอ่อนมาก การย้ายตัวอ่อนระยะบลาสโตซีสต์จะช่วยให้เราสามารถคัดเลือกตัวอ่อนที่ดีให้เหลือน้อยลงในการย้ายกลับ เป็นการลดโอกาสในการตั้งครรภ์แฝดที่มากกว่าสองลงไปได้มากในขณะที่โอกาสในการตั้งครรภ์กลับสูงขึ้น
No comments:
Post a Comment